ผมติดตามบอร์ดนี้มาเกือบๆ5ปีแล้วครับ ไม่เคยเขียนกระทู้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเขียน ผมอยากจะเล่าประสบการณ์และขอความเคิดเห็นจากเพื่อนๆในห้องนี้ด้วยครับ ผมเริ่มทำธุรกิจมาได้เกือบๆ 6 เดือนแล้วแต่ออกมาทำจริงๆได้ 4 เดือน ทำธุรกิจในสายรับเหมาก่อสร้างในโรงงานอุตสหกรรม ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน ตอนนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จหรอกครับ เจออุปสรรคเยอะแยะ เจอคำสบประมาทก็มากมาย เพื่อนฝูงหักหลังและตีตัวออกห่างก็เยอะ แต่ผมไม่เคยท้อและตั้งใจทำความฝันของผมต่อไป
เมื่อคืนพ่อคุยกับผมให้เลิกทำ ให้ไปทำงานบริษัทซะ ผมพยายามอธิบายเหตุผลและความคิดของผมแล้วแต่ไม่ได้เป็นผลอะไรเลย ผมเพลียมากนึกว่าจัดการปัญหาภายในเรียบร้อยแล้ว เปล่าเลย ผมนึกถึงกฏข้อที่สองของบิลเกตว่า ”โลกไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน แต่โลกนี้คาดหวัง ‘ความสำเร็จ’ ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณต่างหาก” เนื่องจากที่บ้านผมรับราชการเขาไม่อยากลูกให้ทำธุรกิจ เขาอยากให้ผมทำงานบริษัทใหญ่ๆ หรือ รัฐวิสาหกิจ จริงๆแล้วผมคิดว่าทางบ้านผมเขาอยากให้ทำอะไรก็ได้ที่มีเงินเยอะ มีเกียรติ เพราะบ้านผมค่อนข้างมีเกียรติ
ผมรักที่จะทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่ามีธุรกิจอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นธุรกิจนี้ มันเป็นความฝันของผม ผมรักมันและ ผมวางแผนมาเป็น 10 ปี ฝึกและเขี่ยวเข็นกับตัวเอง เสียความสนุกในช่วงวัยรุ่น เสียโอกาสหลายๆอย่าง เสียคนที่รัก พี่ที่ทำงานเก่าคนหนึ่งเขาบอกผมว่า “ทำไมต้องมาเครียดอะไรขนาดนี้ด้วย อายุยังแค่นี้เอง” คนที่ผมรักมองผมว่า “ผมจริงจังมากเกินไป เครียด อึดอัด” ลูกศิษย์พ่อคนหนึ่งเขาพูดว่า “ถึงจะเก่งจริง ก็ไม่มีใครเชื่อเอ็งหรอก” ผู้ใหญ่ที่นับถือคนหนึ่งบอกว่าผมว่า “การทำธุรกิจมันยาก มันเครียดกว่าการเป็นพนักงานหลายร้อยเท่าพันเท่า” ผมทราบดีว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างและผมก็ตัดสินใจทำมัน
จาก ที่ออกจากทำงานประจำมาเริ่มธุกิจ ไม่มีใครรู้จักเลยไม่รู้ไปทางไหน ความจริงผมออกมาจะทำกับเพื่อนเพราะผมไม่พร้อมในบางเรื่อง แต่เพื่อนผมดันหักหลังผมซะได้ ผมขอไม่พูดในที่นี้ ในตอนนั้นกว่าจะทำให้คนรู้จักมันยากมาก พ่อก็บอกกับผมว่า”ขี้เกียจ ไม่ทำงาน มัวแต่อยู่ในบ้าน ตื่นสาย” การทำงานของพ่อผมคือ ต้องออกไปข้างนอก ต้องสร้างของออกมา ผมตื่นสายเพราะต้องทำงานดึกหลับเกือบตีห้า ต้องทำการตลาด ต้องวางแผนงาน ต้องคิดผลิตภัณฑ์ ต้องออกแบบคำนวน ต้องเสนอราคา ต้องทำบัญชี ผมทำคนเดียว วันๆหนึ่งผมหลับแค่ 6 ชั่วโมง เครียดต้องออกไปปั่นจักรยาน 3 ชั่วโมง นอกนั้นคือเวลาทำงาน กินข้าว เข้าห้องน้ำ ผมยังทำงาน
มา ถึงวันนี้เขารู้จักเราแล้วเราจะทำให้เขาเชื่อมั่นเราทำยังไง ผมก็กำลังทำอยู่ มันเป็นการตลาด ผมต้องออกไปหาลูกค้า เสนองาน ให้คำแนะนำ เสนอราคา ไม่ได้นอน ต้องขับรถ เคยหลับในขณะขับรถ แต่คำพูดของพ่อวันนี้มันแทงใจผมมาก เช่น “โง่ ทำงานให้เขาฟรีๆ ไม่ได้ตังค์ซักบาท เสียเงินค่าเดินไปแล้วเท่าไหร่ บ้าง อะไรบ้าง “ ผมเสียเงินในการทำธุรกิจที่นับได้ก็เป็นแสน นับไม่ได้อีกเท่าไหร่ และ บางอย่างที่มีค่ามาก ตีเป็นมูลค่าไม่ได้ มีคนบอกว่าให้กลับไปทำบริษัทหลายคน ผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอยู่ในสมองเลย ถึงมีมันก็มาไกลเกินจุดกลับตัวแล้ว ยังไงก็ไม่กลับ เมื่อคืนผมเสียใจมากที่พ่อพูดแบบนี้ แม่โทรหาผมเมื่อคืนก่อนพ่อโทรมา แต่เห็นผมขับรถอยู่เลยให้ผมโทรกลับตอนเช้าของวันนี้ เมื่อเช้าผมโทรไป พอผมได้ยินเสียงแม่น้ำตาผมไหลเลย ผมไม่เคยเสียน้ำตาเลยหลังจากแม่ผมร้องไห้เพราะยายเสียเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว
คน ที่เรารัก ถ้าเราทำอะไรแล้วเขาไม่เชื่อใจเราไม่เชื่อมั่นเรา มันเจ็บมาก หากเพื่อนๆมีลูก มีเพื่อน มีญาติ มีพี่น้อง มีแฟน มีคนรู้จัก ที่เขาทำตามฝันอยู่ถ้าไม่สนับสนุนก็อย่าไปขัดขวางเขาเลย เพราะบางทีการที่ไม่เห็นเขาแสดงออก ข้างในอาจจะเจ็บปวดอยู่ลึกๆแต่เก็บเอาไว้ในใจก็ได้ วันนี้ ผมเพลียมาก แต่ยังไงผมก็คงต้องผ่านอุปสรรคนี้ และทำธุรกิจต่อไป บางทีคิดว่าทำไมเงินมันหายากจัง การจะไปเอาเงินเขานี่มันลำบากสุดๆ เห็นคนในห้องนี้หลายคนเริ่มทำธุรกิจ ทำไปได้แปปๆ หรือคุยโทรศัพท์แปปๆได้เงินหมื่นเงินแสนเงินล้าน แต่กับสิ่งที่ผมเจอทั้งตัวเอง โดนหลอก ไม่ได้เงิน ทำงานฟรี เพื่อนฝูงหักหลัง เพื่อนอิจฉา ทั้งที่ผมก็เตรียมความพร้อมในสายงานมาและกำลังพัตนาการตลาดอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ผมอาจจะกระจอก และ ไม่มีประสิทธิผลพอ ผมอยากขอความเห็นและข้อแนะนำของเพื่อนๆทุกคน ในทุกๆเรื่องด้วยครับ
*ขอเพิ่มเติม
หากจะติดต่อให้ผมดูงานหรือแนะนำงานให้ รบกวนดูความคิดเห็นที่ 39 ก่อนนะครับ
ทำธุรกิจมา 6 เดือนโครตเพลียมาเล่าประสบการณ์และขอคำแนะนำครับ
ผมติดตามบอร์ดนี้มาเกือบๆ5ปีแล้วครับ ไม่เคยเขียนกระทู้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเขียน ผมอยากจะเล่าประสบการณ์และขอความเคิดเห็นจากเพื่อนๆในห้องนี้ด้วยครับ ผมเริ่มทำธุรกิจมาได้เกือบๆ 6 เดือนแล้วแต่ออกมาทำจริงๆได้ 4 เดือน ทำธุรกิจในสายรับเหมาก่อสร้างในโรงงานอุตสหกรรม ผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงาน ตอนนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จหรอกครับ เจออุปสรรคเยอะแยะ เจอคำสบประมาทก็มากมาย เพื่อนฝูงหักหลังและตีตัวออกห่างก็เยอะ แต่ผมไม่เคยท้อและตั้งใจทำความฝันของผมต่อไป
เมื่อคืนพ่อคุยกับผมให้เลิกทำ ให้ไปทำงานบริษัทซะ ผมพยายามอธิบายเหตุผลและความคิดของผมแล้วแต่ไม่ได้เป็นผลอะไรเลย ผมเพลียมากนึกว่าจัดการปัญหาภายในเรียบร้อยแล้ว เปล่าเลย ผมนึกถึงกฏข้อที่สองของบิลเกตว่า ”โลกไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน แต่โลกนี้คาดหวัง ‘ความสำเร็จ’ ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณต่างหาก” เนื่องจากที่บ้านผมรับราชการเขาไม่อยากลูกให้ทำธุรกิจ เขาอยากให้ผมทำงานบริษัทใหญ่ๆ หรือ รัฐวิสาหกิจ จริงๆแล้วผมคิดว่าทางบ้านผมเขาอยากให้ทำอะไรก็ได้ที่มีเงินเยอะ มีเกียรติ เพราะบ้านผมค่อนข้างมีเกียรติ
ผมรักที่จะทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่ามีธุรกิจอะไรก็ได้ แต่ต้องเป็นธุรกิจนี้ มันเป็นความฝันของผม ผมรักมันและ ผมวางแผนมาเป็น 10 ปี ฝึกและเขี่ยวเข็นกับตัวเอง เสียความสนุกในช่วงวัยรุ่น เสียโอกาสหลายๆอย่าง เสียคนที่รัก พี่ที่ทำงานเก่าคนหนึ่งเขาบอกผมว่า “ทำไมต้องมาเครียดอะไรขนาดนี้ด้วย อายุยังแค่นี้เอง” คนที่ผมรักมองผมว่า “ผมจริงจังมากเกินไป เครียด อึดอัด” ลูกศิษย์พ่อคนหนึ่งเขาพูดว่า “ถึงจะเก่งจริง ก็ไม่มีใครเชื่อเอ็งหรอก” ผู้ใหญ่ที่นับถือคนหนึ่งบอกว่าผมว่า “การทำธุรกิจมันยาก มันเครียดกว่าการเป็นพนักงานหลายร้อยเท่าพันเท่า” ผมทราบดีว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้างและผมก็ตัดสินใจทำมันจาก ที่ออกจากทำงานประจำมาเริ่มธุกิจ ไม่มีใครรู้จักเลยไม่รู้ไปทางไหน ความจริงผมออกมาจะทำกับเพื่อนเพราะผมไม่พร้อมในบางเรื่อง แต่เพื่อนผมดันหักหลังผมซะได้ ผมขอไม่พูดในที่นี้ ในตอนนั้นกว่าจะทำให้คนรู้จักมันยากมาก พ่อก็บอกกับผมว่า”ขี้เกียจ ไม่ทำงาน มัวแต่อยู่ในบ้าน ตื่นสาย” การทำงานของพ่อผมคือ ต้องออกไปข้างนอก ต้องสร้างของออกมา ผมตื่นสายเพราะต้องทำงานดึกหลับเกือบตีห้า ต้องทำการตลาด ต้องวางแผนงาน ต้องคิดผลิตภัณฑ์ ต้องออกแบบคำนวน ต้องเสนอราคา ต้องทำบัญชี ผมทำคนเดียว วันๆหนึ่งผมหลับแค่ 6 ชั่วโมง เครียดต้องออกไปปั่นจักรยาน 3 ชั่วโมง นอกนั้นคือเวลาทำงาน กินข้าว เข้าห้องน้ำ ผมยังทำงาน
มา ถึงวันนี้เขารู้จักเราแล้วเราจะทำให้เขาเชื่อมั่นเราทำยังไง ผมก็กำลังทำอยู่ มันเป็นการตลาด ผมต้องออกไปหาลูกค้า เสนองาน ให้คำแนะนำ เสนอราคา ไม่ได้นอน ต้องขับรถ เคยหลับในขณะขับรถ แต่คำพูดของพ่อวันนี้มันแทงใจผมมาก เช่น “โง่ ทำงานให้เขาฟรีๆ ไม่ได้ตังค์ซักบาท เสียเงินค่าเดินไปแล้วเท่าไหร่ บ้าง อะไรบ้าง “ ผมเสียเงินในการทำธุรกิจที่นับได้ก็เป็นแสน นับไม่ได้อีกเท่าไหร่ และ บางอย่างที่มีค่ามาก ตีเป็นมูลค่าไม่ได้ มีคนบอกว่าให้กลับไปทำบริษัทหลายคน ผมไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอยู่ในสมองเลย ถึงมีมันก็มาไกลเกินจุดกลับตัวแล้ว ยังไงก็ไม่กลับ เมื่อคืนผมเสียใจมากที่พ่อพูดแบบนี้ แม่โทรหาผมเมื่อคืนก่อนพ่อโทรมา แต่เห็นผมขับรถอยู่เลยให้ผมโทรกลับตอนเช้าของวันนี้ เมื่อเช้าผมโทรไป พอผมได้ยินเสียงแม่น้ำตาผมไหลเลย ผมไม่เคยเสียน้ำตาเลยหลังจากแม่ผมร้องไห้เพราะยายเสียเมื่อ 4-5 ปีที่แล้วคน ที่เรารัก ถ้าเราทำอะไรแล้วเขาไม่เชื่อใจเราไม่เชื่อมั่นเรา มันเจ็บมาก หากเพื่อนๆมีลูก มีเพื่อน มีญาติ มีพี่น้อง มีแฟน มีคนรู้จัก ที่เขาทำตามฝันอยู่ถ้าไม่สนับสนุนก็อย่าไปขัดขวางเขาเลย เพราะบางทีการที่ไม่เห็นเขาแสดงออก ข้างในอาจจะเจ็บปวดอยู่ลึกๆแต่เก็บเอาไว้ในใจก็ได้ วันนี้ ผมเพลียมาก แต่ยังไงผมก็คงต้องผ่านอุปสรรคนี้ และทำธุรกิจต่อไป บางทีคิดว่าทำไมเงินมันหายากจัง การจะไปเอาเงินเขานี่มันลำบากสุดๆ เห็นคนในห้องนี้หลายคนเริ่มทำธุรกิจ ทำไปได้แปปๆ หรือคุยโทรศัพท์แปปๆได้เงินหมื่นเงินแสนเงินล้าน แต่กับสิ่งที่ผมเจอทั้งตัวเอง โดนหลอก ไม่ได้เงิน ทำงานฟรี เพื่อนฝูงหักหลัง เพื่อนอิจฉา ทั้งที่ผมก็เตรียมความพร้อมในสายงานมาและกำลังพัตนาการตลาดอยู่ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ผมอาจจะกระจอก และ ไม่มีประสิทธิผลพอ ผมอยากขอความเห็นและข้อแนะนำของเพื่อนๆทุกคน ในทุกๆเรื่องด้วยครับ
*ขอเพิ่มเติม
หากจะติดต่อให้ผมดูงานหรือแนะนำงานให้ รบกวนดูความคิดเห็นที่ 39 ก่อนนะครับ